Sale!

แพ็กเกจตรวจคัดกรองจอประสาทตาเสื่อม-MKP22023227-โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

฿1,500.00

โรคประสาทตาเสื่อมคืออะไร ?

โรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม เป็นโรคที่เกิดความผิดปกติบริเวณจุดศูนย์กลางการรับภาพของจอประสาทตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นเฉพาะภาพตรงกลาง โดยที่ภาพด้านข้างของการมองเห็นยังดีอยู่ พบมากในผู้ที่มีอายุ 65 ปี ขึ้นไป ซึ่งโรคนี้เป็นภาวะที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จะทำให้การมองเห็นลดลงจนอาจทำให้ตาบอดได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 ปี หากไม่ได้รับการรักษา และหากพบว่าเป็นโรคนี้ในตาข้างหนึ่งข้างใดแล้ว จะมีความเสี่ยงสูงมากกว่า 40%  ที่จะเกิดกับตาอีกข้างหนึ่งภายในระยะเวลา 5 ปี หลังจากที่เคยเป็นในตาข้างแรกแล้ว จอประสาทตาเสื่อมมี 2 ชนิด คือ แบบที่ 1 แบบแห้งหรือแบบเสื่อมช้า  เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุด  โดยเซลล์จอประสาทตาจะค่อย ๆ เสื่อมไปอย่างช้า ๆ การมองเห็นจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น แบบที่ 2  แบบเปียกหรือแบบเร็ว พบร้อยละ 10-15 ของโรคจอประสาทตาเสื่อม โดยจะเกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็วทันที เป็นผลจากจุดกลางรับภาพจอประสาทตาบวม และ / หรือมีเลือดออกที่จอประสาทตา

สาเหตุ ของโรคจอประสาทตาเสื่อมคืออะไร ?

มีหลายภาวะที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ เช่น คนที่มีสายตาสั้นมาก ๆ (Degenerative or Pathologic Myopia) หรือโรคติดเชื้อบางชนิด แต่สาเหตุส่วนใหญ่จะพบในผู้สูงอายุ จึงเชื่อว่าเป็นขบวนการเสื่อมสภาพของร่างกาย (Aging Process) แต่ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน มีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านที่ส่งผลต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ (Aged related macular degeneration) ได้แก่

  • อายุ พบโรคนี้ได้บ่อยขึ้นในคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
  • พันธุกรรม มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมของคนที่เป็นโรคกับญาติสายตรง ผู้เกี่ยวข้องควรได้รับการตรวจเช็คจอประสาทตาทุก ๆ 2 ปี
  • เชื้อชาติ / เพศ พบอุบัติการของโรคมากที่สุดในคนผิวขาว (Caucasian) เพศหญิง อายุมากกว่า 60 ปี
  • การดื่มสุรา และสูบบุหรี่ มีหลักฐานทางการศึกษาพบว่า การดื่มสุรา และสูบบุหรี่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอย่างชัดเจน
  • ความดันเลือดสูง ผู้ป่วยที่ต้องทานยาลดความดันเลือด และมีระดับของไขมัน Cholesterol ในเลือดสูง และระดับ Carotenoid ในเลือดต่ำ มีความเสี่ยงสูงมากต่อการเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมแบบสูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็ว (Wet AMD)
  • วัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ไม่ได้รับประทานยาฮอร์โมน Estrogen พบว่าอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
  • การได้รับแสง รังสีอัลตราไวโอเลต และแสงสีฟ้าที่เป็นแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอสมาร์ทโฟน เป็นระยะเวลานาน

เงื่อนไขการใช้งาน

* บัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถใช้ได้ที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เท่านั้น
* บัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
* โปรดแสดงบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดลงทะเบียนคนไข้ใหม่ ก่อนเข้ารับบริการ โดยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการเฉพาะลูกค้าที่สามารถแสดง E-mail ยืนยันการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือเอกสารเท่านั้น
* บัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์นี้ไม่สามารถยกเลิก แลกเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้
* บัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์นี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆได้
* บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินในทุกกรณี สำหรับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ได้ใช้ภายใน วันที่กำหนด
* ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าแพทย์และค่าบริการสถานพยาบาลแล้ว
* บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือยกเลิกเงื่อนไขและข้อกำหนดบางประการหรือทั้งหมดในกรณีอันสมควร โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
* สามารถติดต่อเพื่อจองคิวนัดตรวจล่วงหน้าได้ที่ 02-080-5999